สวัสดีค่ะทุกคน ขอต้อนรับสู่ Wonderpeachblog นะคะ
Blog นี้จริงๆตั้งใจจะเขียนนานแล้ว ตั้งแต่ได้มีโอกาสทดลองผลิตภัณฑ์เป็นกลุ่มแรกๆของไทย
แต่เราอยากให้แน่ใจว่ามันเวิร์คไม่เวิร์ค
แน่นอนค่ะว่าบล็อกนี้ พีชจะมารีวิว Garnier Micellar Cleansing Water ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเครื่องสำอางที่ดังมากๆของ Garnier และตอนนี้ก็มีจำหน่ายในเมืองไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เย้!!!
ช่วงต้นเดือนกรกฎาคม ทางการ์นิเย่ได้ชวนพีชไปร่วมทริปสุด exclusive ที่พัทยา 2 วัน 1 คืน ให้เราได้ไปทดลองผลิตภัณฑ์ และทำกิจกรรมกัน
ขอบคุณทางแบรนด์ที่ยังนึกถึงกัน เพราะก่อนหน้านี้ก็มีทริปไปลั๊ลลากันที่เขาใหญ่ อ่านบล็อก http://wonderpeachblog.blogspot.com/2015/11/garnier-ageless-white-night-boribot.html
ทริปนี้อย่างที่บอก ทั้งพีชและพี่น้องบล็อกเกอร์ท่านอื่นๆเราจะได้เป็นคนกลุ่มแรกๆในประเทศที่ได้ทดลอง Garnier Micellar Cleansing Water ก่อนที่จะวางขายอย่างเป็นทางการ
ส่วนตัวพีช เคยทดลองผลิตภัณฑ์ตัวนี้ตั้งแต่ไปเที่ยวอังกฤษเมื่อปลายเมษาที่ผ่านมา ทดลองใช้ขำๆเพราะไม่ได้พก makeup remover ไป ปรากฎว่าใช้ดีแฮะ ยังนึกเสียดายว่าที่ไทยไม่มี เพราะที่เมืองนอกราคาถูกมาก ตอนนั้นพีชพอได้ยินกระแสของคลีนเซอร์ตัวนี้มาพอสมควร ว่าดี๊ดี ราคาก็ถูก ทำความสะอาดก็ดี
แถมเทียบได้กับแบรนด์ราคาสูงที่ขายตามท้องตลาด น่าสนใจมากเลยใช่มั้ยหล่ะคะ
Micellar Water หลายคนอาจจะยังไม่คุ้นหูเท่าไหร่
Micellar จะทำหน้าที่คล้ายแม่เหล็กค่ะ ซึ่งจะคอยดึงเมกอัพให้หลุดออกมา พีชจะไม่ลงรายละเอียดเท่าไหร่ เพราะไม่ได้เป็นกูรูด้านส่วนผสม แต่เอาเป็นว่า Micellar Water จะมีประสิทธิภาพกว่า Cleansing Water ปกติทั่วไป ช่วยให้เครื่องสำอางที่เราประโคมไป หลุดออกง่ายกว่าค่ะ
Ingredients : Aqua/Water, Hexylene Glycol, Glycerin, Disodium Cocoamphodiacetate, Disodium EDTA, Poloxamer 184, Polyaminopropyl Biguanide.
Garnier Micellar Water มีให้เลือก 2 สูตรค่ะ ตอนแรกพีชเห็นแต่สีชมพู เพิ่งทราบว่าเค้ามีสีฟ้าด้วย
- สีชมพู Garnier Skin Natural Micellar Cleansing Water สูตรนี้สำหรับผิวธรรมดา หรือผิวที่มีแนวโน้มแพ้ง่ายค่ะ
- สีฟ้า Garnier Skin Natural Micellar Cleansing Water Pure Active สูตรนี้สำหรับผู้ที่มีผิวมัน และมีแนวโน้มเป็นสิวง่าย (สิวเสี้ยน สิวอุดตัน)
ทั้ง 2 สูตร ไม่มีน้ำหอม ดีงามมาก หลายคนสอบถามพีชตั้งแต่โพสรูปช่วงที่ไปทริป บอกเลยว่าแทบจะไม่ได้กลิ่นอะไรเลยค่ะ และไม่มีแอลกอฮอล์ รวมถึงสารอันตรายที่จะก่อให้เกิดอาการแพ้ได้ง่ายด้วยค่ะ
จริงๆพีชใช้ได้ทั้ง 2 สูตรเลยแหละ เพราะเคยใช้สูตรสีชมพูมาก่อน กับตอนไปทริปก็ลองหยิบสีฟ้ามาใช้ดู
โอเคทั้งสองสูตรเลยค่ะ
สำหรับพีชคือล้างผิวหน้าได้สะอาดดีงาม ไม่ต้องเช็ดอย่างรุนแรง ลูบสำลีไปตามผิวเบาๆก็ออก ไม่ระคายเคืองผิว ที่พีชชอบมากๆเลยคือ ความรู้สึกหลังจากเช็ดหน้าแล้ว แทบไม่เหนอะหนะค่ะ สบายผิวมากๆ ไม่ต้องล้างด้วยโฟมหรือน้ำตามก็ได้ (อันนี้แล้วแต่ความชอบของแต่ละคนเลยค่ะ ) อย่างวันไหนที่พีชมีแต่งหน้า แล้วต้องไปยิมต่อ ก็เช็ดด้วยGarnier Micellar Water แล้วก็ไปออกกำลังกายได้เลย ไม่เหนียว สิวไม่ถามหา
ในรูปคือแปะสองรอบ ออกเกือบหมดค่ะ เพราะพีชใช้เครื่องสำอางรอบดวงตาแบบกันน้ำ อาจจะมีแค่ช่วงขอบขนตา ต้องใช้คอตตอนบัดในการช่วยทำความสะอาดค่ะ
สำหรับเมคอัพตา ถ้าเป็นแบบไม่ waterproof จริงจัง ออกค่ะ แทบไม่ต้องแปะนานเลย แต่ถ้าอายตัวไหนติดแน่นๆแบบสุดๆ ต้องแปะนาน ถูตาบ่อย พีชแนะนำเป็นใช้ eye makeup remover แทนค่ะ
จำนวนสำลีที่ใช้ ตา ข้างละ 1 แผ่น หน้าข้างละ 2 แผ่น เช็ดเคลียร์ตามซอกจมูก มุมปาก ไรผมอีก 1
เช็ดจนกว่าสำลีแผ่นที่เช็ดอยู่จะไม่มีสีอะไรติดออกมา
ทั้งหน้าพีชใช้ทั้งหมด 8 แผ่น ปกติคือเกือบ 10 แผ่นค่ะ ยังไม่รวมเช็ดตาด้วยนะ
อย่างที่บอกคือเครื่องสำอางโดยเฉพาะบริเวณใบหน้าหลุดออกง่ายมาก แทบไม่ต้องออกแรง ออกมาเต็มๆแผ่นกันเลยทีเดียวค่ะ
พีชขอแนะนำเลย สำหรับคนที่อยากได้ อยากลองคลีนเซอร์ใหม่
ขวดนี้ขอยกให้เป็น "ถูกและดี"เลยค่ะ
ได้ยินราคาตอนแรกยังตกใจ
ขวดใหญ่เบิ้มที่พีชถืออยู่ ขนาด 400 มล. ราคา 249 บาท หาซื้อได้ที่ Watson / Eve and Boy
แถมเค้ายังออกขนาด 125 มล. ราคา 99 บาท หาซื้อได้ง่ายใน 7-11 ค่ะ
ขอแถมภาพบรรยากาศทริปที่ไปมา
ในงานมีกิจกรรมให้แต่งหน้าแล้วลบหน้าด้วย ไปติดตามคลิปของพีชได้ใน Instagram : Wonderpeach เลยค่ะ
ต้องขอขอบคุณแบรนด์การ์นิเย่อีกครั้ง สำหรับทริปและกิจกรรมดีๆค่ะ
แว่วๆมาว่าสาวๆจากเพจพีช โชคดีได้รับของรางวัลจากการไปเล่นเกมส์ในเพจของ Garnier ที่ https://www.facebook.com/Garnier.Thailand ด้วย กรี๊ดร้อง ดีใจแทน
สามารถเข้าไปช้อปได้เลยที่ http://ho.lazada.co.th/SHHPjE
