สวัสดีค่ะ ทุกคน
ณ เวลานี้ ถ้าพูดถึงคุชชั่น คงไม่มีใครไม่รู้ใจใช่มั้ยหล่ะคะ
แน่นอนว่าแหล่งกำเนิดของคุชชั่นมาจากทางฝั่งเกาหลี
แต่ว่าฝั่งยุโรปเค้าก็ไม่น้อยหน้า แถมขยันออกกันมาแบบรัวๆ
วันนี้พีชเลยจะมารีวิวคุชชั่นจากทางฝั่งยุโรป มามีผิวกระเบื้องเคลือบแบบสาวฝรั่งเศส ด้วย
YSL Le Cushion Encre De Peau
อย่างแรกที่เห็นแล้วต้องเป็นสะดุดตา ก็คือดีไซส์ของแพกเกจจิ้งที่หรูหรา แต่เรียบง่ายสีทองดำ ตามแบบฉบับของ YSL ค่ะ
สวยมากกกกก ดูโดดเด่น เพราะแบรนด์อื่นส่วนใหญ่จะเลือกเป็นสีขาว แต่ของ YSL ดำทองเงามาแต่ไกล
เวลาใช้อาจจะต้องระวังนิดนึง เนื่องจากตลับค่อนข้างเงาค่ะ เลอะเป็นรอยนิ้วมือได้ง่าย
เปิดออกมา เจอกับพัฟสีดำเป็นอย่างแรก
เนื้อพัฟเป็นพัฟสำหรับคุชชั่นแบบเบสิกค่ะ ไม่ได้มีความพิเศษอะไร
แต่สีดำคือความเก๋ (พัฟแบบนี้ซักไม่ได้นะคะ )
เปิดมาเจอส่วนที่เป็นคุชชั่นค่ะโดยจะมีกระดาษปิด รอการเปิดใช้งานค่ะ ทาด๊าาาาาาาา !!!
ส่วนของคุชชั่นนั้น เป็นลักษณะฟองน้ำนุ่มๆ ที่อัดแน่นไปด้วยเนื้อรองพื้นค่ะ
กดๆลงไปก็จะได้เนื้อคุชชั่นติดออกมา หลายคนที่เพิ่งเริ่มใช้ พีชแนะนำกดเพียงแค่เบาๆ ก็จะได้เนื้อคุชชั่นออกมาเพียงพอต่อการใช้งานแต่ละครั้งค่ะ
พูดถึงเฉดสีกันบ้าง เฉดสีของ YSL Le Cushion มีให้เลือก 5 เฉดสีค่ะ
พีชเลือกเบอร์ 40 มาค่ะ
เป็นเฉดผิวโทนกลางๆ ไม่ชมพู๊ชมพู แล้วก็ไม่เหลือง
เพราะสีผิวพีชจะติดชมพูเล็กน้อยค่ะ ใช้ได้
จริงๆรอบนี้สุ่มแบบออนไลน์ค่ะ ฮ่าๆๆๆๆ
กังวลเล็กน้อยว่าจะแมชกับสีผิวเรารึเปล่า
แต่เดี๋ยวลองไปดูกันค่ะว่าจะรอดมั้ย
สำหรับมือใหม่หัดใช้คุชชั่น พีชแนะนำว่าให้ใช้พัฟ "แตะๆ กด" ลงบนผิวหน้านะคะ
ย้ำ "แตะๆ กดๆ" ทำวนไปค่ะ !!!!
แตะๆกดๆ ในการลงรองพื้นแบบคุชชั่น
เพื่อให้เนื้อผลิตภัณฑ์ยึดเกาะกับผิวหน้า ดูเนียนละเอียด และไม่เป็นคราบค่ะ
มาดูประสิทธิภาพ การปกปิด ของคุชชั่นตัวนี้กันดีกว่า
พูดเลยว่า อเมซิ่ง!! ไม่คิดว่าคุชชั่นของ YSL จะปกปิดได้ดีขนาดนี้
เอาเป็นว่า ดีเกินคาดค่ะ
อย่าหาว่าพีชอวยผลิตภัณฑ์เลยเนอะ เพราะตอนแรกที่ได้ยินว่า YSL ออกคุชชั่นมา
คิดคำเดียวว่า "งานผิว" ชัวร์ คงเน้นผิวสวย ไม่ได้ปกปิดอะไร
แต่ดูจากรูปก็บอกแล้วค่ะ ว่าปกปิดดี แต่ไม่ถึง Full Coverage นะคะ
ปรับสภาพผิว ปรับสีผิว ให้ดูดีขึ้นได้ (ในภาพพีชแตะคุชชั่นซ้ำประมาณ 2 รอบค่ะ)
ส่วนเฉดสีที่เลือกมา พีชใช้เบอร์ B40 Sand พอดีมากกก ไม่วอก ไม่เทา ไม่คล้ำไป (ปรบมือชมตัวเอง)
ส่วนใครที่สีผิวค่อนข้างเข้ม เค้ามีเบอร์ B50 ซึ่งเหมาะกับผิวสีแทนด้วยนะคะ
เทียบทั้งหน้า ระหว่าง Before และ After ค่ะ
โดยรวมผิวหน้าดีขึ้นมากกกกกก ผิวดูเนียนละเอียดขึ้น รูขุมขนก็เบลอๆหายไป ยกเว้นหลุมสิวยังเห็นอยู่ค่ะ
จะเห็นได้ว่า ใต้ตาปกปิดได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ส่วนตัวพีชไม่เน้นลงคุชชั่นบริเวณใต้ตาค่ะ เพราะจะตกร่องง่ายมาก ตกเร็วมาก ก่อนที่จะเซ็ตด้วยแป้งซะอีก
งานผิวมาแล้ววววววววในส่วนของใบหน้า พีชไม่ได้ลงคอนซีลเลอร์เพิ่มเติมใดๆค่ะ ลงเฉพาะคอนซีลเลอร์ใต้ตา
สำหรับคนผิวมัน ผิวผสม พีชแนะนำให้เซ็ตแป้งบริเวณ T-Zone ข้างจมูก และใต้ตา
ส่วนอื่นๆอาจจะปัดเพียงแค่เบาๆ เพื่อให้เห็นถึงความโกลวของผิวค่ะ
เรามาแต่งหน้าให้ดูแพงแบบเผยผิวกันดีกว่าค่ะ
ทาสีน้ำตาลกลางๆทั่วเปลือกตา
แตะชิมเมอร์สีแชมเปญบริเวณหัวตา
เขียนอายไลน์เนอร์ชิดขอบขนตา
เกลี่ยขอบอายไลน์เนอร์ให้ฟุ้งด้วยสีน้ำตาลเข้ม
ปัดมาสคาร่าเพิ่มมิติให้ดวงตา
ทาปากสีชมพูส้ม แตะๆให้พอดูระเรื่อ
เสร็จเรียบร้อย
แน่นอนว่าสาวๆที่ผิวมัน ต้องกังวลเรื่องของการคุมมัน การติดทนใช่มั้ยคะ
ประสิทธิภาพคุมมัน บอกได้เลยว่าไม่มีคุชชั่นตัวไหนที่ให้ผิวที่แมท เราก็จะยังคงเห็นความวาวบนใบหน้า
ซึ่งบางครั้ง อาจสับสนกับผิวมัน แต่จริงๆแล้วมันคือความโกลวนะเธอออออ
ความมันพีชสังเกตได้หลังจากแต่งหน้าประมาณ ชั่วโมงค่ะ ระหว่างวันก็มันเรื่อยๆ 5555 มีซับด้วยทิชชู่บ้าง ก็เนียนเหมือนเดิม
และที่พิเศษกว่านั้น คุณแม่ทักค่ะ ว่าใช้อะไร ทำไมผิวดูดีจริง
คือแม่รู้ว่าแต่งหน้านะคะ แต่แม่บอกว่าผิวดูสวย ไม่หนาๆ ไม่ดูแบบว่าแต่งหน้าหนัก
ความติดทน
หลังจากตะลอนมาทั้งวัน กลับถึงบ้านเช็คสภาพหน้าค่ะ
แน่นอนว่าเห็นความมันอยู่แล้วหล่ะ พีชลองซับหน้าด้วยฟิล์มซับมันจ้ะ
ดูกันเองเลย มันออกมาใกล้จะบิดไปทอดไข่ได้
แต่หลังจากซับหน้า ผิวกลับเด้งเหมือนเดิม ยังมีความผิวอยู่
สีแก้ม เฉดดิ้งยังอยู่
สำหรับผิวผสมแบบพีช และสภาพอากาศเมืองไทย นางติดทนใช้ได้ค่ะ แต่แน่นอนว่าความทนคงไม่เท่ารองพื้น
สรุปคะแนนกันหน่อย สำหรับ YSL Le Cushion Encre De Peau
(คิดตามมาตรฐานคุชชั่นค่ะ)
การปกปิด 9/10
คุมมัน 7/10
ความติดทน 8/10
Packaging 10/10
ราคา 7/10 (ราคาตลับละ 2,300 บาท)
ความคุ้มค่า 8/10
Wonder peach recommend 9/10
และทั้งหมดนี้คือความคิดเห็นของพีช หลังจากได้ลองใช้
YSL Le Cushion Encre De Peau
Fushion Ink Foundation
ใครที่มีบัดเจ็ทไม่อั้น พร้อมทุ่ม ตัวนี้น่าทุ่มมากจ้า
ต้องไปจัดค่ะ
0 ความคิดเห็น